ชนิดของไม้ที่ใช้กันในงาน Built-in

หากคุณสนใจที่จะจ้างช่างมาทำงาน Built-in บทความนี้จะกล่าวถึงประเภทของแผ่นไม้ที่นิยมนำมาใช้ในงาน Built-in พร้อมทั้งอธิบายถึงคุณสมบัติ ข้อดี ข้อเสีย และประเภทการใช้งาน เพื่อให้ผู้อ่านสามารถเลือกแผ่นไม้ที่เหมาะสมกับความต้องการและการใช้งานของตนเองได้

คุณสมบัติและข้อดี-ข้อเสียของไม้ในงาน Built-in

งานประเภท Built-in นั้นได้รับความนิยมกันอย่างแพร่หลายเนื่องจากความต้องการของคนในการใช้งานพื้นที่ภายในแต่ละห้องนั้นแตกต่างกันในบางครั้งการเลือกซื้อเฟอร์นิเจอร์แบบลอยตัวอาจไม่ตอบโจทย์ลักษณะการใช้งานที่ต้องการหรือข้อจำกัดในด้านของพื้นที่ไม่ว่าจะเป็นเรื่องความแคบความลาดเอียงของพื้นและผนังที่ไม่เท่ากัน จึงทำให้งาน Built-in นั้นตอบโจทย์ในเรื่องของฟังก์ชั่นการใช้งานเป็นอย่างมากในบทความนี้ Too Architects จะนำเสนอข้อมูลเกี่ยวกับประเภทของแผ่นไม้ที่นิยมนำมาใช้ในงาน Built-in ซึ่งแต่ละชนิดนั้นมีข้อดีข้อเสีย คุณสมบัติ และประเภทการใช้งานที่แตกต่างกัน ให้เป็นข้อมูลสำหรับผู้ที่สนใจในงานBuilt-in และเป็นความรู้สำหรับผู้ที่กำลังมองหาเฟอร์นิเจอร์ Built-in มาไว้ในบ้านของท่าน

ไม้ปาร์ติเกิ้ล(Particle Board)

ไม้ปาร์ติเกิ้ล หรือในบางประเทศเรียกว่าชิปบอร์ด (Chipboard) มีกระบวณการผลิตโดยการนำเศษชิ้นไม้และขี้เลื่อยมาประสานกันโดยสารเคมี และนำมาทำการบดอัดด้วยความดันสูงผสมด้วยกาว  เนื้อไม้จะเหนียวแต่ไม่แน่นมีความเหนียวที่ได้จากเส้นใยที่ประสานกัน แต่เนื้อไม้ก็จะฟู หยาบ ไม่แน่นในเนื้อไม้จะมีโพรงอากาศเล็กๆ เป็นจำนวนมาก โดยทั่วไปจะมีความหนาอยู่ที่ 15 และ 20 มม. เท่านั้น

ข้อดีของไม้ปาร์ติเกิ้ล

  • เป็นไม้อัดที่มีราคาถูก
  • มีความหนาหลากหลายให้เลือกใช้ตามควมต้องการ
  • น้ำหนักเบาที่สุดในบรรดาไม้ทดแทนธรรมชาติ
  • เป็นที่นิยมในวงกว้าง หาซื้อได้ง่าย

ข้อเสียของไม้ปาร์ติเกิ้ล

  • ไม่แข็งแรง เนื้อไม้มีการขยายตัวได้ง่าย
  • อายุการใช้งานสั้น
  • การติดตั้งบานพับเฟอร์นิเจอร์จะไม่ทนทานต่อการใช้งาน
  • ไม่สามารถโดนน้ำได้
  • ไม่สามารถพ่นสีบนตัวงานได้่
  • เกิดเชื้อราได้ง่ายถ้ามีความชื้น

ไม้ปาร์ติเกิ้ลนิยมใช้อย่างมากในงานเฟอร์นิเจอร์ประเภทน็อคดาวน์ที่ราคาถูกเนื่องจากราคาไม่สูง และ สามารถหาซื้อได้ง่าย

ประเภทของแผ่นไม้สำหรับงาน Built-in คุณสมบัติ ข้อดี ข้อเสีย

ไม้เอ็มดีเอฟ(MDF : Medium Density Fiber Board)

ไม้ MDFผลิตโดยการนำชิ้นไม้มาแปรรูปอย่างละเอียดผสมกับกาวชนิดพิเศษแล้วผ่านกระบวนการอัดเป็นแผ่นด้วยเครื่องอัดคุณภาพสูง ไม้ที่นิยมนำมาใช้นั้นคือไม้ยูคาลิปตัสและไม้ยางพารา ผิวไม้ที่ได้จะมีความเรียบเนียน เนื้อแน่นไม่มีรูพรุนนิยมปิดผิวด้วยแผ่นวีเนียร์ แผ่นลามิเนต หรือเมลามีน โดยขนาดมาตรฐานของ แผ่นไม้ MDF ที่ขายกันตามท้องตลาดอยู่ที่ 1.22 x 2.45 เมตร (4 x 8 ฟุต) ต่อแผ่น ส่วนความหนาที่นิยมนำมาทำเฟอร์นิเจอร์มีหลากหลายขนาด ตั้งแต่ 3 มิลลิเมตร ถึง 25มิลลิเมตร ขึ้นอยู่ว่าจะนำไปใช้ประกอบหรือ รับน้ำหนักส่วนไหนของเฟอร์นิเจอร์

ข้อดีของไม้MDF

  • ผิวไม้มีความเรียบเนียบ
  • ทำสีได้สวยงาม
  • ตัดแต่ง บาก เจาะ ได้ง่าย เพราะเนื้อไม้มีความละเอียด
  • มีขนาดความหนาให้เลือกหลากหลาย

ข้อเสียของไม้MDF

  • มีราคาสูงกว่าไม้ปาร์ติเกิ้ล
  • ต้องระวังในเรื่องของความชื้น
  • เกิดฝุ่นในปริมาณมากเมื่อตัดไม้

ไม้ MDFเหมาะสำหรับใช้ในการ Built-in ภายในทั่วไปเช่น งานเฟอร์นิเจอร์บิ้วท์อิน ตู้เสื้อผ้า ชั้นวางของ เป็นต้น

ประเภทของแผ่นไม้สำหรับงาน Built-in คุณสมบัติ ข้อดี ข้อเสีย

ไม้เอชเอ็มอาร์(HMR : High Moisture ResistanceBoard)

ไม้ HMRผลิตโดยการนำชิ้นไม้มาแปรรูปอย่างละเอียดแล้วอัดประสานด้วยกาวชนิดพิเศษที่มีคุณสมบัติทนความชื้นทำให้สามารถใช้งานในบริเวณที่มีความชื้นสูงได้ดีไม้มีสีเขียวเนื่องจากผสมสีเขียวไว้ในเนื้อไม้เพื่อให้แยกออกจากไม้ MDF และไม้ HDF ได้ง่าย นิยมนำไป CNC ทำสีหรือปิดผิวด้วยแผ่นวีเนียร์ แผ่นลามิเนต หรือเมลามีน โดยขนาดมาตรฐานของ แผ่นไม้ HMR ที่ขายกันตามท้องตลาดอยู่ที่ 1.22 x 2.45 เมตร (4 x 8 ฟุต) ต่อแผ่น ส่วนความหนาที่นิยมนำมาทำเฟอร์นิเจอร์มีหลากหลายขนาด ตั้งแต่ 3 มิลลิเมตร ถึง 25มิลลิเมตร ขึ้นอยู่ว่าจะนำไปใช้ประกอบหรือ รับน้ำหนักส่วนไหนของเฟอร์นิเจอร์

ข้อดีของไม้HMR

  • ผิวไม้มีความเรียบเนียบ
  • ทำสีได้สวยงาม
  • ตัดแต่ง บาก เจาะ ได้ง่าย เพราะเนื้อไม้มีความละเอียด
  • มีขนาดความหนาให้เลือกหลากหลาย
  • ใช้งานได้ดีในบริเวณที่มีความชื้นสูง แต่ไม่สามารถแช่น้ำได้โดยตรง
  • นำไปฉลุลายหรือแกะสลักได้ดี

ข้อเสียของไม้HMR

  • มีราคาสูงกว่าไม้ MDF
  • ถึงจะกันชื้นได้ดี แต่ก็โดนน้ำโดยตรงไม่ดีเช่นกัน

ไม้ HMRสามารถใช้ทำงาน Built-in ในบริเวณที่มีความชื้นสูงเช่น ตู้เคาน์เตอร์ครัว ตู้ใต้อ่างล้างหน้าหรือชั้นวางของในห้องน้ำและยังสามารถนำไปฉลุลายเพื่อใช้ตกแต่งฝ้าเพดาน หรือลวดลวยต่างๆ ตามที่ต้องการได้

ประเภทของแผ่นไม้สำหรับงาน Built-in คุณสมบัติ ข้อดี ข้อเสีย

ไม้เอชดีเอฟ(HDF : High Density Fiber Board)

ไม้ HDFคือแผ่นใยไม้อัดความหนาแน่นสูงผลิตโดยนำไม้มาแปรรูปอย่างละเอียดแล้วอัดประสานด้วยกาวชนิดพิเศษที่มีประสิทธิภาพในการทนความชื้นได้สูงและสำหรับไม้ HDF Super E0 ใช้กาวสูตรพิเศษที่ปลอดสารฟอมัลดีไฮด์ทำให้ไม่มีกลิ่นและปลอดภัยต่อการใช้งานไม้ HDF นั้นมีการเพิ่มชั้นไม้ทำให้ความหนาแน่นของไม้ HDF สูงกว่าไม้ MDF และไม้ HMR ส่งผลให้แผ่นบอร์ดเนื้อแน่นมีความแข็งแรงสูงเหมาะกับงานที่ต้องใช้รับแรงหรือทนการกระแทกได้

ข้อดีของไม้HDF

  • เนื้อในแน่นละเอียดไม่มีรูพรุน มีอัตราการหดและพองตัวต่ำจึงคงรูปได้ดี
  • มีความหนาแน่นสูงจึงใช้ในบริเวณที่มีแรงกระแทกได้
  • ใช้งานได้ดีในบริเวณที่มีความชื้นสูง แต่ไม่สามารถแช่น้ำได้โดยตรง
  • ผิวไม้มีความเรียบเนียบ
  • ทำสีได้สวยงาม

ข้อเสียของไม้HDF

  • มีความหนาจำกัด
  • ไม้มีความแข็ง ทำให้ตัดยากต้องเปลี่ยนใบเลื่อยบ่อยขึ้น
  • มีราคาสูงเมื่อเทียบกับไม้ MDF และไม้ HMR
  • ถึงจะกันชื้นได้ดี แต่ก็โดนน้ำโดยตรงไม่ดีเช่นกัน

เนื่องจากไม้  HDF มีความหนาแน่นสูงจึงนิยมนำไปใช้ในบริเวณที่มีแรงกระแทกได้เช่น ใช้เป็นผนังกั้นห้อง หรือเป็นส่วนประกอบของบานประตู และ Core Board ของไม้พื้นลามิเนต

ประเภทของแผ่นไม้สำหรับงาน Built-in คุณสมบัติ ข้อดี ข้อเสีย

ไม้อัด(Ply Wood)

ไม้อัดเกิดจากการฝานไม้ให้ได้แผ่นบางๆแล้วนำมาอัดติดกันโดยใช้กาวเป็นตัวประสานโดยการประสานของไม้อัดนั้นจะจัดวางไม้บางแต่ละแผ่นให้แนวเสี้ยนขวางตั้งฉากกันเป็นการเพิ่มความแข็งแรงและลดการขยายตัวในระนาบแผ่นไม้ให้น้อยที่สุด

 

ข้อดีของไม้อัดPlywood

  • เนื้อแน่น มีอัตราการหดและพองตัวต่ำ จึงไม่บิดหรือโก่งงอ
  • มีประเภทที่กันน้ำได้
  • มีความแข็งแรง ทำโครงสร้างได้
  • สามารถทำสีและโชว์ลายไม้ได้เลย

ข้อเสียของไม้อัดPlywood

  • ไม่เหมาะกับงานฉลุลาย เนื่องจากมีเนื้อไม้ที่ซ้อนกันเป็นชั้นๆ 
  • ประเภทที่กันน้ำได้ราคาค่อนข้างสูง

ไม้อัดนั้นเหมาะสมอย่างมากสำหรับนำมาใช้ทำเฟอร์นิเจอร์หรืองานประเภท Built-in โดยเฉพาะในบริเวณที่ต้องการโชว์เนื้อไม้และในบางกรณีไม้อัดยังสามารถใช้ทำโครงสร้างได้ซึ่งในท้องตลาดนั้นมีไม้อัดยางที่ใช้สำหรับทำป้ายโฆษณา ฉากกั้น พื้น ผนังและชั้นวางของแบบชั่วคราวที่ไม่เน้นความสวยงามข้อจำกัดของไม้อัดยางทั่วไปคือมีลายให้เลือกน้อยและสวยไม่เท่าไม้อัดที่มีการปิดผิว อีกทั้งยังมีความหนาแน่นต่ำจึงรับแรงและน้ำหนักได้น้อย

ประเภทของแผ่นไม้สำหรับงาน Built-in คุณสมบัติ ข้อดี ข้อเสีย

ไม้อัดโอเอสบี(OSB : Oriented Strand Board)

ไม้ OSBมีขั้นตอนการผลิตคือนำชิ้นไม้ที่แบนบางและยาววางสลับเสี้ยนขวางตั้งฉากกันอย่างน้อย 3ชั้นจากนั้นใช้กาวชนิดพิเศษและเรซินเป็นส่วนผสมผ่านกระบวนอัดด้วยความร้อน และแรงดันสูง

ข้อดีของไม้OSB

  • สวยงามดูเป็นธรรมชาติ
  • แข็งแรง ทนมาน ยึดและเจาะได้ง่าย
  • หดและขยายตัวต่ำมากในทุกสภาพแวดล้อม

ข้อเสียของไม้OSB

  • ไม่นิยมทำสีเพราะผิวไม่เรียบ
  • ไม่เหมาะกับงานฉลุเพราะเศษไม้จะหลุดร่วงและเห็นลายไม่ชัดเจน

ไม้ OSBนั้นนิยมใช้ทำเป็น Sub roof สำหรับปูShingle roof หรือใช้เป็นวัสดุสำหรับงานฝ้าและผนังที่เน้นโชว์ลายไม้อีกทั้งยังสามารถใช้งานประเภทเฟอร์นิเจอร์ต่างๆได้แต่ต้องมีการเก็บขอบเป็นอย่างดีไม่ให้เหลือเสี้ยนไม้

ประเภทของแผ่นไม้สำหรับงาน Built-in คุณสมบัติ ข้อดี ข้อเสีย
ประเภทของแผ่นไม้สำหรับงาน Built-in คุณสมบัติ ข้อดี ข้อเสีย
This is some text inside of a div block.